Wednesday, March 29, 2006

พี่นิดฝากมาให้อ่าน FW: ใครกันที่ผิด.

>> >ที่สนามบินนานาชาติระดับโลก มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดี
>> >จำเป็นต้องรอเวลาถึง 3 ชั่วโมง ในการเปลี่ยน
>> >เครื่องบินเพื่อไปจุดหมายปลายทาง
>> >
>> >เธอจึงตัดสินใจเดินไปซื้อหนังสือ 1 เล่มและคุ๊กกี้ 1 ห่อ
>> >และเตรียมหาที่นั่งเพื่ออ่านและกินฆ่าเวลาไปพลาง ๆ
>> >เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้ 1 แห่ง เธอสังเกตเห็นว่าข้างๆ
>> >เธอมีชายหนุ่มซึ่งนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจใคร
>>ว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้าง
>> >ๆ เขา
>> >
>> >สักครู่หนึ่ง ขณะที่เธออ่านหนังสือ
>>ชายหนุ่มก็หยิบขนมคุ๊กกี้ออกจากถุง
>> >ซึ่งวางอยู่ระหว่างคนทั้งสองแล้วกินมันอย่างละชิ้น
>>เธอมองด้วยความโกรธ
>> >แต่ไม่ต้องการทำเรื่องวุ่นวาย เธอจึงทำเป็นไม่สนใจ
>> >เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุ๊กกี้และเฝ้ามองนาฬิกา
>> >
>> >ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย
>>กำลังกินมันให้หมดสิ้นไป
>> >
>> >เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า
>> >
>> >"ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดีมีการศึกษาแล้วละก็..ฉันจะชกหน้าเจ้าหมอนี้ให้แหลกไปเลย"
>> >
>> >ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน 1 ชิ้น ชายหนุ่มก็หยิบมันกิน 1 ชิ้น
>> >
>> >ทั้งสองส่งสายตามองกัน เมื่อคุ๊กกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย
>> >เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไร ชายหนุ่มค่อย ๆ
>> >หยิบคุ๊กกี้ชิ้นสุดท้ายแล้วหักออกเป็น 2
>> >ชิ้นส่งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น
>> >
>> >เธอรับจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและคิดในใจว่า
>> >
>> >"เขาช่างเป็นคนไร้มารยาทสุดๆ ช่างไร้การศึกษา
>> >ไม่มีแม้แต่พูดขอบคุณสักคำ"
>> >
>> >เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของทั้งหมดแล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่อง
>> >ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามองหัวขโมยผู้ไร้มารยาทซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม
>> >
>> >ภายหลังจากขึ้นเครื่องและนั่งประจำที่อย่างสบายแล้ว
>> >เธอก็หยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง
>> >ในขณะที่หยิบหนังสือจากกระเป๋า
>>ก็พบว่ามีขนมคุ๊กกี้ 1 ห่อ
>> >เธอตกใจมาก
>> >
>> >ถ้าคุ๊กกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่า.....
>> >คุ๊กกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่แบ่งให้เธอกิน
>> >เธอลุกขึ้นทันที แล้ววิ่งออกจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของชายหนุ่ม
>> >แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า
>> >มันสายไปเสียแล้วที่จะได้ขอโทษชายหนุ่ม ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง
>> >เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธอนั่นเองที่ไร้มารยาท
>> >เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง
>> >
>> >มีกี่ครั้งในชีวิตของคนเรา ที่ค้นพบในภายหลังว่า
>> >สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงมันเป็นการเข้าใจผิด
>> >มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น
>> >และทำให้เราตัดสินผู้อื่นจากความคิดเย่อหยิ่งของเราเอง
>> >ซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย
>> >
>> >นี่แหละที่ทำให้เราต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนตัดสินผู้อื่นหลาย
>>เรื่อง
>> >สิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น
>> >ควรมองผู้อื่นในแง่ดีแล้วคอยสงสัยตัวเองว่า
>> >"เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง?
>> >เราเคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือไม่"
>>
>>

No comments: